COOKING HOW-TO | ฟักทองผัดไข่ Comfort Food ในความทรงจำ

ในแต่ละครอบครัวต้องมีอย่างน้อยสักหนึ่งเมนูที่เป็นจานแห่งความทรงจำร่วมกัน สำหรับบ้านฉัน ฉันและพี่ๆ เติบโตมากับสวนกับไร่ อาหารของแม่รังสรรค์จากพืชผักปลูกเองหลายอย่าง ส่วนพ่อเองก็ไม่ได้อยู่เฉย รายนั้นเป็นพ่อครัวขนมไทยตัวยง เพราะพ่อโปรดปรานทั้งการทำและการกินขนมหวาน

เมื่อนึกถึงชีวิตวัยเด็กที่มีทั้งแม่ครัวของคาวและพ่อครัวของหวาน ก็เห็นภาพฟักทองสีเหลืองเนื้อนวลนิ่มลอยขึ้นมาในจินตนาการของฉันเสมอ ก็เจ้าฟักทองนี้แปลงร่างเป็นได้ทั้งอาหารคาวและหวาน ตั้งแต่ฟักทองผัดไข่ใส่หมู แกงเลียง แกงกะทิ แกงไตปลา ฟักทองนึ่งกับน้ำพริกกะปิ สังขยาฟักทอง ฟักทองเชื่อม รวมถึงเมนูเครื่องดื่มอย่างน้ำฟักทอง

บ้านเรามีฟักทองให้กินอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตได้ทั้งในอากาศร้อนและหนาว ฟักทองเพียงหนึ่งลูกใหญ่ๆ สามารถนำมาทำอาหารได้หลายมื้อหลากเมนู ตอนเด็ก ๆ จำได้ว่าฉันไม่ได้ชอบกินฟักทองเท่าไรนัก โดยเฉพาะเปลือกที่แข็งและเฝื่อนของมัน และมักเกิดคำถามว่าทำไมแม่ถึงไม่ปอกออกไป คงจะอร่อยกว่านี้มากเป็นแน่

โตขึ้นถึงรู้ว่าการรับประทานฟักทองทั้งเปลือกมีประโยชน์มากทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ และเชื่อว่าสามารถช่วยกระตุ้นอินซูลินซึ่งเป็นสารควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ทั้งยังบำรุงตับ บำรุงไต บำรุงตา และควบคุมความดันโลหิตได้อีกด้วย สารพัดประโยชน์ขนาดนี้เชื่อแล้วล่ะว่าหวานเป็นลมขมเป็นยาจริงๆ

เมื่อเห็นเมนูฟักทองทีไรทำให้อดคิดถึงวันเก่าๆ ไม่ได้ เมนูโปรดของฉันคือฟักทองผัดไข่ ได้เจอะเจอกันในแทบทุกร้านอาหาร ซึ่งในชีวิตมหาลัยที่ต้องจากบ้านมาอยู่หอพัก ฉันลองกินฟักทองผัดไข่มาเกือบทุกร้านแล้วในระยะสิบกิโลเมตรนี้ แต่ไม่มีเจ้าไหนเทียบรสมือแม่ได้เลย วันนี้มีโอกาสจึงอยากลองทำเองบ้าง โดยใช้สูตรของแม่ที่ฉันไม่เคยสนใจรายละเอียดวิธีทำมาก่อน เพราะได้แต่น้ำลายสอรอกินอย่างเดียว

ฟักทองผัดไข่เป็นเมนูง่ายแสนง่ายสำหรับการทำอาหารที่ไม่อำนวยต่อวัตถุดิบหรือวิธีการปรุงที่ซับซ้อน เพราะฟักทองผัดไข่มีแค่พระเอกกับนางเอกคือฟักทองและไข่เท่านั้น ฟักทองขนาดลูกเล็ก ๆ พอให้เป็นอาหารได้ถึงสองถึงสามมื้อ หาซื้อได้ตามตลาดสดและร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตเล็ก ๆ ทั่วไป

จากการสัมภาษณ์ผู้รู้เคล็ดลับผัดฟักทองให้อร่อยเหาะมานานหลายสิบปี แม่บอกว่าต้องเริ่มตั้งแต่การเลือกฟักทอง โดยเลือกลูกที่แก่พอดี เพราะเนื้อจะหวานมัน ผลต้องหนัก เนื้อแน่น และหากมีรอยบุ๋มที่จุกแสดงว่าแก่เป็นอันใช้ได้ แต่หากซื้อแบบหั่นโชว์เนื้อขาย เปลือกเขียวเข้มนั้นจะบ่งบอกถึงความสด เพราะแสดงว่าเพิ่งเก็บจากต้นไม่นาน ซึ่งจะมีความหวานมากกว่าฟักทองที่ไม่สด ส่วนเนื้อนั้นควรมีสีส้มอมเหลืองเข้มเป็นมัน

เมื่อเลือกตามนี้แล้วจะได้ฟักทองที่หวานมัน เนื้อไม่แข็งและไม่เละจนเกินไป จากนั้นจึงนำมาล้างทั้งเปลือกด้วยน้ำให้สะอาด จะปอกหรือไม่ปอกเปลือกก็ได้ หั่นเป็นชิ้นย่อมๆ พอเหมาะ เพราะหากหั่นชิ้นเล็กเกินจะทำให้เนื้อฟักทองเละ แต่หากใหญ่เกินก็จะแข็งและสุกไม่เต็มที่ได้

ต่อไปนี้คือกระบวนการปรุงให้สุก ใช้เวลาไม่นาน ใส่น้ำมันลงในกระทะที่ร้อน สับกระเทียมหยาบๆ ตามลงไป ใครอยากใส่เนื้อสัตว์เพิ่มโปรตีนก็ใส่ตอนนี้ได้เลย ผัดชั่วอึดใจแล้วใส่ตัวเอกของเราที่หั่นเตรียมไว้ จากนั้นเติมน้ำซุปพอทำให้ผัดได้สุก การใช้น้ำซุปจะช่วยให้รสกลมกล่อมยิ่งขึ้น แต่ถ้าไม่สะดวกจะใช้น้ำเปล่าแทนก็ได้ เรื่องความกลมกล่อมนั้นสามารถปรุงแต่งกันทีหลัง สูตรของแม่ ฉันพิเศษตรงที่ใส่หางกะทิ ¼ ถ้วยตวงเพิ่มความหอมมัน เสร็จแล้วก็ได้เวลาปิดฝารอสุก ประมาณ 10-15 นาที

ได้ที่แล้วจึงเปิดออกดู ลองจิ้มว่าเนื้อฟักทองนิ่มพอดีแล้วหรือยัง ระวังอย่าให้เลยเวลาจนเนื้อเละเกินไป หากได้ที่แล้วให้ตอกไข่ 2 ฟอง ผัดเบาๆ จนไข่สุกเข้าเนื้อกันกับฟักทอง ปรุงรสด้วยน้ำปลานิด น้ำตาลหน่อยตามใจชอบ แต่อย่าลืมว่าฟักทองค่อนข้างหวานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าปรุงรสออกเค็มหน่อยจะตัดกับเนื้อหวานของฟักทองพอดี เป็นอันว่าเรียบร้อย ตักใส่จานรับประทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ได้เลย

ไม่น่าเชื่อว่าฟักทองผัดไข่ที่เราเคยไม่ลงรอยกันในวัยเด็ก จะกลายมาเป็นอาหารแสนโปรดที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันล้นเปี่ยม ภาพความทรงจำที่ทำให้เรายิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

เมื่อคิดถึงช่วงเวลาแห่งความผูกพันที่เราได้ใช้ไปกับการลิ้มรสมันมื้อแล้วมื้อเล่า คิดถึงคนที่เคยทำให้เรากิน และคิดถึงคนที่เคยนั่งกินไปกับเรา สำหรับฉัน แม้จะเป็นเพียงเมนูธรรมดาไม่เลิศหรู แต่ฟักทองผัดไข่ทำหน้าที่ของมันได้ดีเสมอมา